• Global Website (English)หน้าต่างใหม่
  • Worldwide Officesหน้าต่างใหม่

CC-Link CLPA

CC-Link Partner Association
Thailand

แผงผังเว็บไซต์

เมนู

  • หน้าแรก
  • เทคโนโลยีเครือข่าย
  • ผลิตภัณฑ์
  • การพัฒนา
  • เกี่ยวกับ CLPA
  • คำถามที่พบบ่อย
    /ข้อมูลติดต่อ

เทคโนโลยีเครือข่าย

  • Network
    เครือข่ายแบบ Ethernet
    CC-Link IE TSN
    CC-Link IE Control Network
    CC-Link IE Field Network
    CC-Link IE Field Network Basic
    เครือข่ายแบบ Serial
    CC-Link
    CC-Link Safety
    CC-Link/LT
    โปรโตคอลทั่วไป
    SLMP
  • ฟังก์ชัน
    Safety
    Motion
  • โซลูชัน
    เครือข่ายไร้สาย
    Security
  • โปรไฟล์
    CSP+, CSP+ for Machine
  • ตัวอย่างการใช้งาน

ผลิตภัณฑ์

  • ค้นหาตามหมวดหมู่หน้าต่างใหม่
  • ค้นหาตามชื่อผลิตภัณฑ์หน้าต่างใหม่
  • ค้นหาตามชื่อบริษัทหน้าต่างใหม่
  • ผลิตภัณฑ์ล่าสุดหน้าต่างใหม่
  • ผลิตภัณฑ์ที่เป็นไปตาม SLMPหน้าต่างใหม่
  • Electronic Partner Product Catalog(Offline version)ZIP

การพัฒนา

  • กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์
  • ผังกระบวนการสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้ากันได้กับ CC-Link IE TSN
  • การทดสอบความสอดคล้อง
  • ห้องปฏิบัติการทดสอบ
  • CC-Link IE TSN Contracted Development Manufacturer
    Coming soon
  • Introducing Development Toolหน้าต่างใหม่

เกี่ยวกับ CLPA

  • กิจกรรม
  • ประวัติ
  • องค์กร
  • การรับสมาชิก
  • Partnersหน้าต่างใหม่
  • มาตรฐานสากล
  • การเติบโตของ CLPA

close

CLOSE

  • หน้าแรก
  • เทคโนโลยีเครือข่าย
  • ผลิตภัณฑ์
  • การพัฒนา
  • เกี่ยวกับ CLPA
  • คำถามที่พบบ่อย
    /ข้อมูลติดต่อ

CLOSE

  1. หน้าแรก
  2. เทคโนโลยีเครือข่าย
  3. บทความที่น่าสนใจ
  4. Fieldbus สำหรับการทำงานของระบบอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรม

บทความที่น่าสนใจ

ระบบ Fieldbus สำหรับการทำงานของระบบอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรม

วงการอุตสาหกรรมการผลิตในปัจจุบันมีการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้งาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้น และได้รับผลกำไรมากขึ้น รวมถึง มีความปลอดภัยในการทำงานที่มากขึ้น โรงงานอุตสาหกรรมจึงมีการนำระบบอัตโนมัติมาใช้ โดยเฉพาะโรงงานที่มีสายการผลิตที่อาศัยการทำงานของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งในด้านเสถียรภาพ และความเร็วของเครือข่าย ดังนั้น ระบบเครือข่าย Fieldbus จึงได้ถือกำเนิดขึ้น เพื่อทำหน้าที่รับ-ส่งข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งเทคโนโลยี Fieldbus คือ เทคโนโลยีที่เข้ามาปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมให้เปลี่ยนรูปแบบของระบบวัดแบบแอนาล็อกหรือผสม ให้เข้าสู่ระบบการทำงานด้วยระบบดิจิทัลอย่างแท้จริง 


โดย Fieldbus คือ สิ่งที่ช่วยให้ผู้ประกอบการลดต้นทุนในการผลิต ลดการบำรุงรักษา และแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งระบบ  Fieldbus มีกระบวนการทำงานอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไรในอุตสาหกรรมการผลิต มาติดตามกัน 



Fieldbus คืออะไร ทำไมถึงสำคัญต่อ Factory Automation

โดยทั่วไป Fieldbus คือ ระบบบัสสำหรับรับ-ส่งข้อมูลแบบดิจิทัล ระหว่างอุปกรณ์วัดด้วยกันเอง และระหว่างอุปกรณ์วัดกับระบบควบคุม รวมถึง Fieldbus ยังเป็นเครือข่ายสื่อสารแบบหนึ่งที่มีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านสายสัญญาณเป็นจุดเดียวกัน เพื่อส่งข้อมูลต่อไปยังอุปกรณ์ที่มีระดับสูงกว่า เช่น DCS, PLC,  SCADA ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ตรวจสอบการทำงานของระบบแบบ Real-Time ซึ่งจะช่วยให้ระบบ SCADA รวมถึงอุปกรณ์ที่มีระดับสูงกว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


โครงสร้างเครือข่ายของ Fieldbus มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ อาทิ เครือข่ายรูปวงแหวน เครือข่ายรูปดาว เครือข่ายรูปต้นไม้ โดย ณ จุดเริ่มต้น  Fieldbus มีปัญหาในเรื่องของมาตรฐานในการเชื่อมต่อ จนกระทั่งมีการออกมาตรฐานใหม่ และแบ่ง Fieldbus ออกเป็น 8 รูปแบบด้วยกัน โดยมีรูปแบบการสื่อสารอยู่ 79 เทคโนโลยี รวมถึงมีการเปลี่ยนการเรียก Type 1-8 เป็น Communication Profile Families (CPF) 1-15 


นอกจาก Fieldbus คือ ระบบบัสสำหรับรับ-ส่งข้อมูลแบบดิจิทัลที่มีประโยชน์อย่างมากในโรงงานอุตสาหกรรมในภาคการผลิตแล้ว  Fieldbus ยังสามารถรองรับอุปกรณ์หลายตัวในคู่สายเดียวกัน สามารถสื่อสารได้ 2 ทิศทาง และยังสามารถสื่อสารพร้อมกันได้หลายๆ ค่า รวมถึงมีความแม่นยำสูงมาก จึงเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมการผลิตที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถลดต้นทุนการผลิต สร้างกำไรได้ในระยะยาว ลดขั้นตอนการบำรุงรักษา รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตที่สูงขึ้น และนำมาปฏิบัติใช้ร่วมกันกับพนักงานในโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  อีกทั้งยังลดโอกาสในความผิดพลาดในกระบวนการผลิตได้อีกด้วย 



เทคโนโลยี Foundation Fieldbus ระบบพัฒนาเพื่อประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลที่ดีกว่าเดิม

เทคโนโลยี Foundation Fieldbus คือ เทคโนโลยีตัวล่าสุดของเครือข่าย Fieldbus ที่ถูกพัฒนาและนำเข้ามาแทนที่การสื่อสารรูปแบบเก่า หรือรูปแบบแอนาล็อกที่ต้องใช้สายไฟเชื่อมต่อ เช่น สาย Multicore ซึ่งมักเกิดปัญหาเรื่องสัญญาณรบกวนหรือผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง โดย Foundation Fieldbus คือ การสื่อสารแบบอนุกรม ด้วยสัญญาณดิจิทัลแบบ 2 ทิศทางระหว่างอุปกรณ์การวัด ที่ถูกพัฒนาบนพื้นฐานของมาตรฐาน IEC โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างมาตรฐาน Fieldbus เพื่อให้สามารถใช้งานได้กับทุกๆ ยี่ห้อ


จึงเปรียบ Foundation Fieldbus เป็นระบบเครือข่ายท้องถิ่น (Local Area Network) ที่สามารถกระจายการควบคุมต่างๆ ไปอยู่ในอุปกรณ์การวัดภายในเครือข่ายได้ โดยใช้สายสัญญาณเพียงเส้นเดียวจากตัวที่คอยควบคุมไปยังอุปกรณ์การวัดตัวแรก และตัวต่อไปได้ ผ่านการสื่อสารที่เรียกว่า โปรโตคอล (Protocol) เป็นโมเดลการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบ ซึ่งมีโครงสร้างทำงานร่วมกันของ 3 ส่วนประกอบหลัก ดังนี้ 

  • Physical Interface เป็นส่วนที่กำหนดให้อยู่ใน Layar ที่ 1 จะทำหน้าที่รับข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสไว้จาก Layer ที่สูงกว่า แล้วเปลี่ยนข้อมูลดังกล่าวให้กลายเป็นสัญญาณทางกายภาพ เพื่อนำเข้าตัวกลางและส่งต่อไป

  • Communication Stack เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของ Foundation Fieldbus ทำหน้าที่เปลี่ยนคำสั่งและข้อมูลจาก User Layers เพื่อส่งไปยัง Physical Layer 

  • User Layer เป็นส่วนที่ใช้ติดต่อกันภายในระบบ คำสั่งจากส่วนนี้จะส่งไปยัง Communication Stack เพื่อเข้ารหัสต่อไป 

อีกทั้ง  Foundation Fieldbus ยังเป็นระบบที่มีจุดประสงค์ เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ แบบ Real Time เพื่อใช้ควบคุมทั้งระบบ ทั้งจากระหว่างอุปกรณ์และอุปกรณ์ด้วยกัน หรือจากคอนโทรลเลอร์ไปยังเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในเรื่องของหน้าที่การใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมการผลิต ดังนี้ 

  • สามารถควบคุมได้จนถึงอุปกรณ์ในระดับ Field จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้อุปกรณ์ได้อย่างอิสระ และสามารถเข้าถึงกระบวนการในภาวะวิกฤติได้

  • ช่วยลดจำนวนของสายสัญญาณที่ต่อมายัง Host โดยใช้การเดินสายสัญญาณเพียงเส้นเดียวจาก Host มาสู่ Field แล้วค่อยกระจายผ่านแต่ละ Segment จึงเป็นการลดจำนวนสายสัญญาณลงไปได้มาก 

  • ลดจำนวนของ Barrier ที่จะต้องต่อคู่ไปกับอุปกรณ์ ซึ่ง 1 Fieldbus Interface Module สามารถเชื่อมตัวเครื่องมือวัดและคอนโทรลเลอร์ได้หลายตัว จึงช่วยลดจำนวนของตัว Intrinsic Safety Barriers ได้

  • เหมาะสมกับการควบคุมอย่างต่อเนื่องแบบวงจรปิดและแบบดีสครีต อีกทั้งยังตอบสนองกับการใช้งานประเภทความเร็วสูง

  • Foundation Fieldbus สามารถรับ-ส่งข้อมูลได้หลายๆ ตัวแปร 

  • สามารถปรับแต่งได้ละเอียดและมีประสิทธิภาพที่มากขึ้น ลดโอกาสการหยุดชะงักของกระบวนการผลิต จึงทำให้ผลผลิตมากขึ้น และสร้างผลกำไรที่มากขึ้นตามมา 

  • การวิเคราะห์ข้อมูลถูกต้องและน่าเชื่อถือ ความคลาดเคลื่อนในด้านกระบวนการลดลง 

  • ความปลอดภัยในโรงงานเพิ่มสูงขึ้น เพราะมีระบบแจ้งเตือนก่อนการตัดสินใจในสภาวะที่เลวร้าย 

  • การติดตั้งประหยัดและง่ายขึ้น โดยสามารถใช้สายไฟที่มีอยู่เดิม ทำให้งบประมาณในการใช้จ่ายลดลง แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 



แนะนำ Industrial Fieldbus ที่ได้รับความนิยมจากเหล่าผู้ใช้งาน

Industrial Fieldbus หรือ Fieldbus Protocol คือ ข้อกำหนดหรือข้อตกลงในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ เกี่ยวกับวิธีการรับ-ส่งข้อมูล หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า โปรโตคอล (Protocol) ซึ่งช่วยให้อุปกรณ์ที่มีความแตกต่างกันสามารถสื่อสารกันได้ ซึ่งมีมากมายหลายแบบ อาทิ Profibus, Modbus, ControlNet และ Ethernet โดยในปัจจุบัน Fieldbus Protocol คือ สิ่งสำคัญอย่างมากเปรียบเหมือนภาษาที่ใช้เชื่อมต่อการสื่อสารและการออกคำสั่งไปยังเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ต่างๆ โดยตัวอย่าง Fieldbus Protocol ที่ได้รับความนิยม ซึ่งมีลักษณะการทำงานและจุดเด่น ดังนี้ 

  • ControlNet:  เป็นโปรโตคอลถูกพัฒนาโดยบริษัท Allen-Bradley ในปี 1995 เพื่อใช้ในงานควบคุมระดับ Control โดยใช้เพื่อการสื่อสารระหว่าง PLC หรืออุปกรณ์ที่ต้องการความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูง สำหรับ ControlNet มีความเร็วในการส่งข้อมูลอยู่ที่ 5 Mbit/s โดยแบ่งเวลาในการอัปเดตข้อมูลเป็นช่วงๆ ที่เรียกว่า NUT (Network Update Time) ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่  Schedule, Unschedule และ Guard Band

  • Modbus: เป็น Open Protocol ที่บุคคลทั่วไปสามารถพัฒนาการสื่อสารแบบ Modbus ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นรูปแบบการส่งข้อมูลง่ายๆ ระหว่างอุปกรณ์ที่ต้องการข้อมูล (Modbus Master: Client) และอุปกรณ์ที่ให้ข้อมูลที่ต้องการ (Modbus Slave: Server) โดย Modbus Master 1 ตัว สามารถมี Slave ได้ถึง 247 ตัว ซึ่ง Master สามารถส่งข้อความถึง Slave ในลักษณะการ Broadcast ในรูปแบบของ Slave Address, Function Code (คำสั่ง), Data และ Checksum ส่วนข้อมูลที่ Slave สามารถส่งกลับมาได้จะมีคำสั่งให้กระทำ หรือข้อมูลต่างๆ และ Checksum

  • ProfiBus: โปรโตคอลอีกรูปแบบหนึ่งสำหรับการติดต่อแบบอนุกรมกับอุปกรณ์ต่างๆ โดยใช้บัสเพียงเส้นเดียวในการเชื่อมต่อ โดยจุดเด่นของ ProfiBus คือ สามารถลดจำนวนสายลงได้ และเพิ่มความรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร อีกทั้งยังได้ค่าที่แม่นยำและเที่ยงตรงเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ProfiBus ยังเป็น Open Protocol อุปกรณ์ต่างๆ จึงสามารถติดต่อกันได้อย่างสมบูรณ์ภายใต้โปรโตคอลตัวนี้ 

  • Ethernet: อีกหนึ่งโปรโตคอล ที่ใช้สื่อสารระหว่างเครือข่าย โดยจะใช้ วิธีการ CSMA/CD เพื่อส่งข้อมูลไปยังเครื่องจักรต่างๆ ซึ่งในแต่ละอุปกรณ์จะได้ข้อมูลที่ต่างกัน เพื่อให้ทำงานได้สอดคล้องและประสานกันจึงสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัว และลดข้อผิดพลาดลงไปได้ 



รูปแบบการเชื่อมต่อที่มีผลต่อการรับส่งสัญญาณของ Fieldbus

โดยทั่วไป Fieldbus จะมีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป แต่ Fieldbus ที่นำมาใช้ในโรงงานส่วนใหญ่จะนิยมในรูปแบบ Network Topology ซึ่งเป็นรูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่าย เพื่อใช้สำหรับรับ-ส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 2 ตัวขึ้นไป ซึ่งสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรได้หลายรูปแบบตามความเหมาะสมของการใช้งาน โดย Network Topology ที่นิยมนำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตมีด้วยกัน 4 รูปแบบ ดังนี้ 

  • Star Topology เป็น Network Topology ที่มี ฮับ (Hub) เป็นศูนย์กลาง ที่เชื่อมเครื่องจักรแต่ละเครื่องเอาไว้ เพื่อรับ-ส่งข้อมูลไปยัง Hub ซึ่งเครื่องจักรแต่ละเครื่องไม่สามารถสื่อสารถึงกันได้โดยตรงต้องผ่าน Hub เท่านั้น เหมาะกับงานในสเกลใหญ่ เพราะหากบางจุดเกิดปัญหาจะไม่เสียหายทั้งระบบ 

  • Line Topology เป็นลักษณะการเชื่อมต่อที่เชื่อมต่อเครื่องจักรทั้งหมดเข้าด้วยกันแบบเส้นตรง โดยสามารถเรียกอีกชื่อว่า Bus Topology เพราะเครื่องจักรทุกเครื่องต้องเชื่อมต่อกับสายสื่อสารหลักแบ็กโบน (Backbone) เพียงเส้นเดียว โดยอาศัยตัว Connector ที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์ และสายเคเบิล เพื่อรับ-ส่งข้อมูล เหมาะกับรูปแบบการทำงานที่มีความต่อเนื่องกัน เพราะมีรูปแบบไม่ซับซ้อน 

  • Ring Topology อีกหนึ่ง Network Topology ที่เชื่อมต่อกันแบบจุดต่อจุด เน้นส่งข้อมูลไปยังเครื่องที่อยู่ถัดไปจากด้านซ้ายไปด้านขวา จึงเป็นการส่งทิศทางเดียว สัญญาณเลยถูกส่งต่อเป็นวงกลม เหมาะกับอุตสาหกรรมการผลิตที่มีความต่อเนื่อง 

  • Tree Topology เป็นตัว Network Topology ที่ต่อยอดมาจาก Star Topology จึงมีฮับมาให้ 2 รูปแบบ ได้แก่ Active Hub และ Passive Hub โดยจะมีสายส่งสัญญาณหลัก และมีสายแยกไปรอบๆ เหมือนกิ่งต้นไม้ โดยส่งจากโหนดแม่ไปโหนดลูกตามลำดับ เหมาะกับองค์กรที่มีธุรกิจขนาดกลางที่ต้องมีการขยับขยายอุปกรณ์ต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง 



CC-Link IE เครือข่ายเพื่อเสริมระบบการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อให้การสื่อสารผ่านเครือข่าย Fieldbus สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องใช้เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ อย่างผลิตภัณฑ์ CC-Link IE ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นิยมใช้ในปัจจุบันบนเครือข่าย Fieldbus เพราะ เป็นเครือข่ายที่มีเสถียรภาพสูงโดยมีข้อดี ดังนี้ 

  • ความเร็วสูงพิเศษ สามารถส่งระดับกิกะบิตและโปรโตคอลแบบเรียลไทม์ 

  • สื่อสาร I/O ได้ในระยะไกล ปราศจากการหน่วงเวลาส่งข้อมูล

  • มีความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อเครือข่าย ทั้งในรูปแบบ Star Topology, Line Topology และ Ring Topology

  • เข้าถึง Field Devices ได้โดยตรงทั่วทั้งลำดับชั้นของเครือข่าย

  • ลดปริมาณสายอุปกรณ์ ช่วยให้ประหยัดต้นทุนและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก 

  • ใช้งานสะดวกสบายและป้องกันการเกิดข้อผิดพลาดของระบบ และเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ในโรงงานอุตสาหกรรม


ในปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก การสื่อสารจึงเป็นหนึ่งในจุดเชื่อมสำคัญที่ทำให้การทำงานในแต่ละกระบวนการเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย Fieldbus คือ อีกเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้การทำงานในอุตสาหกรรมหรือในโรงงานผลิตมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ Fieldbus ช่วยการรับ-ส่งข้อมูลแบบดิจิทัล ระหว่างอุปกรณ์วัดด้วยกันเองมีศักยภาพ อีกทั้งยังช่วยขจัดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงสามารถลดต้นทุนในการผลิต และเสริมประสิทธิภาพของพนักงานให้ทำงานได้อย่างคล่องตัวและมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันการนำเทคโนโลยีมาใช้ช่วยในการลดต้นทุน และเสริมกำลังการผลิตเพื่อผลกำไรที่มากขึ้น รวมไปถึงนำไปสู่ความยั่งยืนขององค์กร

บทความก่อนหน้า หน้าหลักบทความ บทความถัดไป

บทความแนะนำ

«
Industrial Networking คืออะไร และแตกต่างกับที่ใช้งานทั่วไปอย่างไร ?
ทำความรู้จักกับ 1st Gen ของ CC-Link ได้แก่ CC-Link, CC-Link LT และ CC-Link Safety
Industry 4.0 (Smart Factory) คืออะไร? แตกต่างจาก Industry 3.0 อย่างไร?
Industrial Networking มีบทบาทอย่างไรในการเป็น Smart Factory ในยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่
Preventive Maintenance VS. Predictive Maintenance
5 สิ่งที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Industrial Internet of Things (IIoT)
5 ข้อดีของเครือข่าย CC-Link IE TSN ที่ช่วยให้ใช้งาน IIoT ได้ง่ายยิ่งขึ้น
สายใยแก้ว อีกหนึ่งตัวช่วยเสริมประสิทธิภาพของการทำงานในโรงงาน
Network Topology คืออะไร มาไขข้อข้องใจ ไม่ยากอย่างที่กลัว
Factory Automation คืออะไร ทำไมโรงงานอัตโนมัติถึงสำคัญ
Smart Factory คือ? มายกระดับโรงงานอุตสาหกรรมด้วย Industrial IoT
สัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า ปัญหาคู่บ้านของการสื่อสารในอุตสาหกรรม
ชวนรู้จักกับหุ่นยนต์อุตสาหกรรม 6 ประเภทสุดฮิตในโรงงาน
ทำความรู้จักกับ AI ที่นำมาประยุกต์ใช้ในด้านอุตสาหกรรม
ระบบควบคุมในโรงงานอุตสาหกรรม เพิ่มความแม่นยำในการทำงาน
Ethernet เทคโนโลยีเครือข่ายการเชื่อมต่อเพื่อรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง
Cobot คืออะไร มีอะไรบ้าง ? ต่างจาก Robot ยังไง
ทำความรู้จักกับระบบ PLC ที่มีอิทธิพลสำคัญต่อยุคอุตสาหกรรม 4.0
Proactive Maintenance คืออะไร
DCS ระบบควบคุมแสนอัจฉริยะที่ควรมีในโรงงานอุตสาหกรรม
สาย LAN มีกี่ประเภท ?
SCADA System คืออะไร
ไขข้อสงสัย TPM (Total Productive Maintenance) คืออะไร ?
»

เทคโนโลยีเครือข่าย

  • เครือข่าย

    • Ethernet based network

      • CC-Link IE TSN
      • CC-Link IE Control Network
      • CC-Link IE Field Network
      • CC-Link IE Field Network Basic
    • Serial based network

      • CC-Link
      • CC-Link Safety
      • CC-Link L/T
    • Common Protocol

      • SLMP
  • ฟังก์ชัน

    • Safety Communication
    • Motion Control
  • โซลูชัน

    • เครือข่ายไร้สาย
    • Security
  • โปรไฟล์

    • CSP+/CSP+ for Machine
  • ตัวอย่างการใช้งาน
  • บทความที่น่าสนใจ
  • ข่าวสารและกิจกรรม
  • ดาวน์โหลด
  • ข้อมูลติดต่อ
เว็บไซต์สมาชิก
CC-Link Partner
Association (CLPA)
CC-Link CLPA

เข้าสู่ระบบหน้าต่างใหม่

  • Global Website (English)หน้าต่างใหม่
  • Worldwide Officesหน้าต่างใหม่
  • Site Map
  • เกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ( ภาษาอังกฤษหน้าต่างใหม่ )
เกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ( ภาษาอังกฤษหน้าต่างใหม่ )
© CC-Link Partner Association

ไปที่บนสุดของหน้า