5 สิ่งที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Industrial Internet of Things (IIoT)
IIoT เป็นสิ่งใหม่ที่เกิดจาก Digital Transformation แม้ว่าบางองค์กรไม่ได้ตระหนักถึงความสามารถที่แท้จริงของ IIoT และยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากการใช้ IIoT ได้อย่างไร แต่ด้วยกระแสของ Digital Transformation ที่กำลังเกิดขึ้น ทำให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรมและทุกธุรกิจ โดยเฉพาะด้านการผลิต ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตแต่ละขั้นตอนสามารถเข้าถึงเพื่อใช้งานและสามารถแบ่งปันข้อมูลได้อย่างปลอดภัยจากทุกที่และทุกอุปกรณ์ โดยมี IIoT เป็นส่วนสำคัญ
อย่างไรก็ตามหลายท่านอาจมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ IIoT อยู่มากมายที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการนำเอา IIoT มาใช้ในการดำเนิน งานด้านการผลิต ในบทความนี้จะนำเสนอเกี่ยวกับ 5 สิ่งที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดเกี่ยวกับ IIoT พร้อมข้อเท็จจริง
ความเข้าใจผิดที่ 1 : IIoT ไม่เหมาะกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
ความเป็นจริง : IIoT เหมาะกับองค์กรทุกขนาด
หลายองค์กรคิดว่า IIoT นั้นเหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่เพียงเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วองค์กรทุกขนาดสามารถนำเอา IIoT มาประยุกต์ใช้ งานได้ เนื่องจากการพัฒนาล่าสุดใน IIoT ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นและช่วยลดต้นทุนได้ โดยในปัจจุบันมี Software เกี่ยวกับ IIoT ที่เป็น ลักษณะ Open-source ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ใช้ประโยชน์จาก IIoT ในการผลิตได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อ รองรับ IIoT ที่ครอบคลุมหรือใช้ทีมไอทีและวิศวกรจำนวนมาก ดังนั้นประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้งาน IIoT มีมากกว่าความกังวลด้านค่าใช้จ่าย หรือเวลา
ความเข้าใจผิดที่ 2 : การใช้งาน IIoT นั้นไม่ปลอดภัย
ความเป็นจริง : การใช้งาน IIoT มีความปลอดภัยและมีมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยรองรับ
หนึ่งในประเด็นสำคัญสำหรับผู้ผลิตเกี่ยวกับการใช้งาน IIoT คือ รู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัย ในความเป็นจริงการเชื่อมต่ออุปกรณ์ให้สื่อสารผ่าน Cloud ก็เป็นโจทย์ที่ท้าทายในการรักษาความปลอดภัยจริงๆ นั่นแหละ แต่ในปัจจุบันมีมาตรฐานและมีการตระหนักด้านความปลอดภัยมากขึ้น ทำให้ IIoT มีความปลอดภัยเท่ากับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีอื่นๆ แม้ว่าความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอาจเกิดขึ้นได้เสมอเมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์กับอินเตอร์เน็ต แต่มาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยที่นำมาใช้งานจะช่วยลดภัยคุกคามและเพิ่มมูลค่าระยะยาวให้กับโครงสร้างพื้นฐานของการทำ IIoT ได้
ความเข้าใจผิดที่ 3 : ไม่จำเป็นต้องใช้ IIoT เพราะเกินจำเป็น
ความเป็นจริง : การใช้งาน IIoT จะทำให้ธุรกิจของคุณได้ข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการผลิตและเพิ่มสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันได้
“เราคงไม่ได้ใช้ข้อมูลจำนวนมากจากการใช้ IIoT หรอก” ด้วยความคิดนี้จึงทำให้เกิดความคิดที่ว่าการใช้งาน IIoT นั้นไม่จำเป็น และเกินจำเป็น แต่ในอนาคตมูลค่าทางธุรกิจจะเพิ่มขึ้นได้ด้วยการรวบรวมและการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนั้นมันก็เป็นไปได้ที่จะทำให้ธุรกิจของคุณมี การเติบโตมากขึ้น ข้อมูลที่ไม่ได้เคยใช้ประโยชน์ใดๆ ก็อาจกลายเป็นสิ่งที่มีค่าได้ และการนำ IIoT มาใช้งานไม่เพียงแต่จะเก็บข้อมูลเท่านั้น แต่ยังช่วย ให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain), ช่วยสร้างแหล่งรายได้ใหม่, อีกทั้งยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ และยืดระยะเวลาในการใช้งานของอุปกรณ์ได้อีกด้วย
ความเข้าใจผิดที่ 4 : การใช้งาน IIoT เป็นแค่การเชื่อมต่อ Sensor เข้ากับอุปกรณ์
ความเป็นจริง : การใช้งาน IIoT เป็นการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของธุรกิจเพื่อช่วยทำให้ทำการตัดสินใจได้ดีขึ้น
การนำ IIoT มาใช้งานก็เป็นการนำอุปกรณ์และเครื่องจักรมาเชื่อมต่อกับ Sensor จริงๆ นั่นแหละ แต่มันมีอะไรที่มากกว่านั้น นอกเหนือจากการ นำอุปกรณ์ทางกายภาพที่เป็นชิ้นๆ มาเชื่อมต่อกันแล้ว IIoT ยังเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเช่น Cloud, Gateway, API, และอื่นๆ ดังนั้นการเชื่อมต่อจึงเป็นพื้นฐานของ IIoT แต่ใจความสำคัญหลักของการนำ IIoT มาใช้งานคือ การสร้างข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก แบบเรียลไทม์เพื่อช่วยในการดำเนินการและการตัดสินใจ เมื่ออุปกรณ์ถูกเชื่อมต่อบนเครือข่ายเพื่อรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ ผู้ผลิตสามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ ป้องกันความล้มเหลวในการทำงาน และเพิ่มเวลาการทำงานของระบบให้ดีขึ้น
ความเข้าใจผิดที่ 5 : การใช้งาน IIoT ใช้ต้นทุนสูง
ความเป็นจริง : ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง IIoT ลดลงและช่วยในการสร้างช่องทางรายได้ใหม่ในระยะยาว
การทำ IIoT นั้นมีค่าใช้จ่ายสูงเป็นหนึ่งในความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นในวงกว้าง จริงอยู่ที่การลงทุนในการใช้งาน IIoT ต้องใช้เงินทุน หลายองค์กรมองเพียงแต่ด้านต้นทุนที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้มองผลประโยชน์ที่ได้รับจากการทำ IIoT เมื่อมีการนำ IIoT มาใช้งานแล้ว ข้อมูลเชิงลึกใน การดำเนินการที่รวบรวมได้จะช่วยลดต้นทุนในการผลิต ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล ผลที่ได้คือ ค่าใช้จ่ายน้อยลงและการเติบโตมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลกำไร
สาเหตุสำคัญที่ทำให้องค์กรจำเป็นต้องลดต้นทุนลงโดยที่ยังคงคุณภาพที่ส่งมอบให้ลูกค้าไว้ก็คือ การแข่งขันทางธุรกิจที่สูงขึ้น ประกอบกับมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นมากมาย ทำให้มีการนำระบบอัตโนมัติมาใช้งาน โดยมีการนำข้อมูลเชิงลึกแบบ Real-time มาใช้งาน และมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการผลิต ส่งผลให้โรงงานที่เชื่อมต่อกับ IIoT มีศักยภาพเพิ่มขึ้นหลายเท่า ดังนั้นคุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าองค์กรของคุณไม่ได้ล้าหลังใน Digital Transformation เนื่องจากความเข้าใจผิดอย่างเกี่ยวกับ IIoT
ประโยชน์จากการนำ IIoT มาใช้งานด้านการผลิต
IIoT มีส่วนช่วยในการผลิต ตั้งแต่การลดต้นทุนในการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การช่วยด้านการบำรุงรักษา ตลอดจนการเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน ในทความนี้จะมีการยกตัวอย่างคร่าวๆ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น
ช่วยเพิ่มความปลอดภัย
หนึ่งในวิธีหลักที่เทคโนโลยี IIoT สามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการผลิตก็คือ ช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลได้รวดเร็วขึ้นและรวบรวมได้จำนวนมากขึ้น โดยส่วนมากความผิดปกติของอุปกรณ์เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นการนำเอาเทคโนโลยี IIoT มาใช้งานเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ จะช่วยให้สามารถตรวจสอบสถานะการทำงานและทราบถึงสภาพการทำงานของอุปกรณ์ได้ ข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงสามารถส่งโดยตรงไปยังห้องควบคุมหรือพื้นที่ที่ต้องการได้ แบบ Real-time แทนที่จะต้องเก็บข้อมูลและป้อนข้อมูลด้วยตนเอง การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการใช้ AI สามารถแจ้งเตือนให้พนักงานทราบถึงปัญหาได้ในทันที อีกทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นระยะเวลานานทำให้สามารถตรวจพบสภาวะอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายแก่ผู้ปฏิบัติงานได้
เพิ่มประสิทธิภาพด้านการบำรุงรักษาและปรับปรุงประสิทธิภาพของคลังสินค้า
IIoT สามารถช่วยในการบำรุงรักษาและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคลังสินค้าได้โดยการติดตามสถานะการทำงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทำให้สามารถมองภาพรวม ในการทำงานได้ตลอดกระบวนการ IIoT ช่วยให้สามารถนับจำนวนในการใช้และจำนวนคงเหลือของวัตถุดิบและอะไหล่ได้อย่างแม่นยำและถูกต้อง ซึ่งจะช่วยป้องกัน การขาดแคลนสต็อกและช่วยลดความผิดพลาดในการบริหารจัดการคลังสินค้า เมื่อวัตถุดิบหรือสินค้าในคลังใกล้หมด sensor ก็จะส่งการแจ้งเตือนเพื่อให้ ผู้ที่รับผิดชอบรับทราบ โดยสามารถติดตามผลและควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกลได้
ช่วยลดต้นทุน
การลดต้นทุนในการผลิตนั้นมีหลายวิธี หนึ่งในวิธีนั้นคือการนำเทคโนโลยี IIoT มาใช้งาน แม้ว่าการนำเอาเทคโนโลยี IIoT มาใช้งานนั้นจะมีต้นทุนสูง แต่วิธีนี้เป็นการลงทุนเพื่อลดต้นทุนในระยะยาว โดยสามารถลดต้นทุนเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงได้ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่เกิดจากค่าอะไหล่หรือค่าแรง เนื่องจากมีการเก็บข้อมูลสถานะการทำงานจริงของเครื่องจักรเพื่อคาดการณ์อายุการใช้งานคงเหลือของอุปกรณ์แต่ละชิ้นแบบ Real-time ทำให้ไม่จำเป็นจะต้องซ่อมบำรุงก่อนล่วงหน้าเพื่อป้องกันปัญหา และไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานคนไปเดินจดเพื่อติดตามสถานะการทำงานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ อีกทั้งยังช่วยลดระยะเวลาในการหยุดเครื่องจักรได้อีกด้วยเพราะการบำรุงรักษานั้นอิงจากสภาพอุปกรณ์จริงจึงไม่ต้องหยุดเครื่องจักรเพื่อทำการบำรุงรักษาบ่อยเกินจำเป็น หรือต้องเปลี่ยนอะไหล่ก่อนกำหนด ทำให้สามารถใช้งานอุปกรณ์ได้คุ้มค่ามากขึ้นอีกด้วย
ช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
การทำ IIoT นั้นคือการบริหารจัดการกับข้อมูล ดังนั้นเมื่อมีการนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์ทำให้องค์กรรู้จักลูกค้าได้ดีขึ้นและสามารถปรับปรุงกระบวนการต่างๆ เพื่อที่จะสามารถให้บริการได้ดียิ่งขึ้น เช่น กระบวนการด้านโลจิสติกส์ อีกทั้งการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าดีขึ้น
References:
บทความแนะนำ
- เว็บไซต์สมาชิก
CC-Link Partner
Association (CLPA)