• Global Website (English)หน้าต่างใหม่
  • Worldwide Officesหน้าต่างใหม่

CC-Link CLPA

CC-Link Partner Association
Thailand

แผงผังเว็บไซต์

เมนู

  • หน้าแรก
  • เทคโนโลยีเครือข่าย
  • ผลิตภัณฑ์
  • การพัฒนา
  • เกี่ยวกับ CLPA
  • ข้อมูลติดต่อ

เทคโนโลยีเครือข่าย

  • Network
    เครือข่ายแบบ Ethernet
    CC-Link IE TSN
    CC-Link IE Control Network
    CC-Link IE Field Network
    CC-Link IE Field Network Basic
    เครือข่ายแบบ Serial
    CC-Link
    CC-Link Safety
    CC-Link/LT
    โปรโตคอลทั่วไป
    SLMP
  • ฟังก์ชัน
    Safety
    Motion
  • โซลูชัน
    เครือข่ายไร้สาย
    Security
  • โปรไฟล์
    CSP+, CSP+ for Machine
  • ตัวอย่างการใช้งาน

ผลิตภัณฑ์

  • ค้นหาตามหมวดหมู่หน้าต่างใหม่
  • ค้นหาตามชื่อผลิตภัณฑ์หน้าต่างใหม่
  • ค้นหาตามชื่อบริษัทหน้าต่างใหม่
  • ผลิตภัณฑ์ล่าสุดหน้าต่างใหม่
  • ผลิตภัณฑ์ที่เป็นไปตาม SLMPหน้าต่างใหม่
  • Electronic Partner Product Catalog(Offline version)ZIP

การพัฒนา

  • กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์
  • ผังกระบวนการสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้ากันได้กับ CC-Link IE TSN
  • การทดสอบความสอดคล้อง
  • ห้องปฏิบัติการทดสอบ
  • CC-Link IE TSN Contracted Development Manufacturer
    Coming soon
  • Introducing Development Toolหน้าต่างใหม่

เกี่ยวกับ CLPA

  • กิจกรรม
  • ประวัติ
  • องค์กร
  • การรับสมาชิก
  • Partnersหน้าต่างใหม่
  • มาตรฐานสากล
  • การเติบโตของ CLPA

close

CLOSE

  • หน้าแรก
  • เทคโนโลยีเครือข่าย
  • ผลิตภัณฑ์
  • การพัฒนา
  • เกี่ยวกับ CLPA
  • ข้อมูลติดต่อ

CLOSE

  1. หน้าแรก
  2. เทคโนโลยีเครือข่าย
  3. บทความที่น่าสนใจ
  4. Industrial Networking มีบทบาทอย่างไรในการเป็น Smart Factory ในยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่

บทความที่น่าสนใจ

Industrial Networking มีบทบาทอย่างไรในการเป็น Smart Factory ในยุคของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่

หลายท่านอาจยังไม่เข้าใจว่าระบบเครือข่ายอุตสาหกรรม (Industrial Networking) อย่าง CC-Link และ CC-Link IE นั้นมี บทบาทสำคัญอย่างไรในการก้าวเข้าสู่ยุค Smart Factory หรือ Industry 4.0 บทความนี้จะทำให้ท่านได้เข้าใจบทบาทและความสำคัญ ของระบบเครือข่ายในภาคอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะปรับตัวเข้าสู่ยุค Digital Disruption

Smart Factory เป็นคำจำกัดความในภาพรวม ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าจะต้องทำอะไร และใช้เทคโนโลยีใดมาประยุกต์ใช้งาน ซึ่งท่านนั่น แหละจะเป็นผู้ให้คำตอบได้ดีที่สุดว่ากระบวนการทำงานของท่านจะหยิบนำเอาเครื่องมือหรือเทคโนโลยีรูปแบบไหนมาปรับใช้ให้เหมาะสมที่สุดโดยไม่ทำเป็นต้องลงทุนในสิ่งที่ ไม่จำเป็นหรือไม่คุ้มค่า (ROI)

โดยเราจะขอยกตัวอย่างระบบที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ไม่ยากเกินไป และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้จริง เพื่อเป็นแนวคิดให้ท่านผู้อ่านได้นำเอาไป ปรับใช้กันนะครับ

Predictive Maintenance หรืออาจเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า Condition based Maintenance ที่ช่วย ลดต้นทุนและลด Downtime ของเครื่องจักร เนื่องจากมีการนำข้อมูลสถานะการทำงานของเครื่องจักรมาวิเคราะห์และคาดการณ์ว่าอุปกรณ์จะเสียในช่วงไหน ซึ่งเป็น การพัฒนามาจากระบบเก่าที่ใช้แบบ Preventive Maintenance หรือ Time-based Maintenance ที่จะทำ การบำรุงรักษาตามช่วงเวลาที่คาดการณ์ไว้

Machine learning ที่จะมาพร้อมกับ AI ในอุปกรณ์ ซึ่งช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องจักร ช่วยในเรื่องของการ Tuning Machine เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าอุปกรณ์ทั้งหมดไม่ได้มีการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่าย ตรงนี้เองที่ CC-Link และ CC-Link IE เข้ามามีบทบาท และเป็นพื้นฐานของการเป็น Smart Factory

Real-Time Monitoring ที่จะทำให้ท่านเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ในการบันทึก แสดงผล วิเคราะห์ วางแผนในการผลิต โดยลดผลกระทบ จากการที่ใช้มนุษย์ในการเก็บข้อมูล และ Real-Time Analyzer ซึ่งเป็นการนำข้อมูลที่เก็บมาได้มาวิเคราะห์กระบวนการผลิต การใช้วัตถุดิบ การใช้พลังงาน คุณภาพสินค้า โดยใช้ AI หรือ Software เฉพาะทางเข้ามาร่วมด้วย

แล้วเครือข่าย CC-Link และ CC-Link IE เข้ามาช่วยทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้เกิดขึ้นจริงได้อย่างไร? เรามาดูกันครับ

เชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน

การที่จะเป็น Smart Factory ได้นั้น ขั้นตอนแรกคือ จะต้องทำการเชื่อมต่ออุปกรณ์และเครื่องจักรทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพื่อให้เครื่องจักรสามารถสื่อสารกัน เองและส่งข้อมูลระหว่างกัน และทำงานสอดคล้องกันได้ สิ่งนี้เรียกว่า Machine to Machine Communication นั่นก็หมายความว่า เครื่องจักรและอุ ปกรณ์เหล่านั้นจะต้องถูกเชื่อมต่อไว้บนเครือข่ายเดียวกันถึงจะพูดคุยกันได้ ซึ่งเครือข่ายที่ใช้ในการเชื่อมต่อนี้เองก็คือ CC-Link และ CC-Link IE

ส่งข้อมูลจำนวนมากได้ในคราวเดียว

ต่อมาเมื่ออุปกรณ์และเครื่องจักรมีการพูดคุยกัน ทำงานร่วมกัน เราก็จะทำการรวบรวมข้อมูลทั้งสถานะการทำงาน และประสิทธิภาพในการทำงานของแต่ละอุปกรณ์ มารวมไว้ในที่เดียว โดยอาศัยเครือข่ายที่มีความเร็วสูงและมี Bandwidth ที่กว้าง ยิ่งค่า Bandwidth มากขึ้นเท่าไหร่ จะยิ่งทำให้สามารถส่งข้อมูลได้คราว ละมากๆ ได้มากขึ้นเท่านั้นโดยเฉพาะ Real-Time Data ที่ทำให้เราสามารถทราบถึงสถานะการทำงานในปัจจุบันของอุปกรณ์และเครื่องจักรทุกชิ้นได้ และยัง ช่วยทำให้เราสามารถติดตามสถานะการทำงานของอุปกรณ์และเครื่องจักรได้ว่าการทำงานนั้นใช้พลังงานเท่าไหร่ การทำงานเป็นปกติหรือไม่ ในการผลิตมีของเสียคิดเป็น ร้อยละเท่าไร ซึ่งแต่ถ้าไม่มีการเชื่อมต่อเครื่องจักรเข้าด้วยกันและรวบรวมข้อมูล การจะทราบถึงสถานะในปัจจุบันของอุปกรณ์และเครื่องจักรนั้นจะต้องใช้คนในการเดินดู ตรวจสอบ ทำให้ข้อมูลที่ได้นั้นเกิดความคลาดเคลื่อนเนื่องจากเวลาในการเข้าถึงอุปกรณ์และเครื่องจักรนั้นมีความแตกต่างกัน ขั้นตอนนี้เป็นส่วนที่สำคัญมากเพราะ ท่าน จะต้องมีความเข้าใจว่าจะรวบรวมข้อมูลอะไรมาใช้งาน

การเชื่อมต่อเป็นแบบ Real-time

เมื่อข้อมูลถูกนำมารวบรวมไว้ในที่เดียวกันแล้ว เราก็จะนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากในแต่ละอุปกรณ์มาทำการแสดงผล โดยการนำข้อมูลมาแสดงผลนั้นผู้ใช้งานสา มารถเลือกได้ว่าจะนำข้อมูลอะไรมาแสดงผล เช่น จำนวนความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในแต่ละเครื่องจักรต่อหนึ่งกะ ประสิทธิภาพในการผลิตในภาพรวม หรือจำนวนพลังงานที่ ใช้โดยรวมทั้งโรงงานและแยกตามรายเครื่องจักร เป็นต้น หรืออาจนำ AI และ Software เฉพาะทางมาใช้งาน เพื่อช่วยในการกรองข้อมูลให้เหลือแค่ข้อมูลที่จำเป็น หรือใช้ในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บได้เพื่อนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการปรับปรุงคุณภาพและกระบวนการในการผลิตได้อีกด้วย สุดท้ายแล้วคุณค่าจากการนำ ข้อมูลมาใช้ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน เพราะเครื่องมือที่เป็น Software นั้นไม่สามารถตีความ หรือวิเคราะห์ข้อมูลได้ แต่คนที่มีความเชี่ยวชาญสามารถนำข้อมูลไปใช้เพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและแก้ไขปัญหาได้

ดังนั้นการมีเครือข่ายประสิทธิภาพสูงถือว่าเป็นสิ่งพื้นฐานที่สำคัญในการเป็น Smart Factory เพราะเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงจะรองรับ การเชื่อมต่อที่หลากหลาย สามารถรับ-ส่งข้อมูลในปริมาณมากได้ด้วยความเสถียรและมีการเชื่อมต่อที่เป็นแบบ Real-time ทำให้สามารถแสดง ผลข้อมูลเพื่อตรวจสอบและติดตามการทำงานของอุปกรณ์และเครื่องจักรได้ มีการแจ้งเตือนเมื่อการเชื่อมต่อขัดข้องที่สามารถระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ได้ ทำให้ช่วยลดระยะเวลาที่เครื่องจักรหรืออุปกรณ์หยุดทำงาน มีการบันทึกเหตุการณ์พร้อมทั้งบันทึกเวลาที่เกิดขึ้นอย่างแม่นยำอีกด้วย

บทความก่อนหน้า หน้าหลักบทความ บทความถัดไป

บทความแนะนำ

«
Industrial Networking คืออะไร และแตกต่างกับที่ใช้งานทั่วไปอย่างไร ?
ทำความรู้จักกับ 1st Gen ของ CC-Link ได้แก่ CC-Link, CC-Link LT และ CC-Link Safety
Industry 4.0 (Smart Factory) คืออะไร? แตกต่างจาก Industry 3.0 อย่างไร?
Preventive Maintenance VS. Predictive Maintenance
5 สิ่งที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Industrial Internet of Things (IIoT)
5 ข้อดีของเครือข่าย CC-Link IE TSN ที่ช่วยให้ใช้งาน IIoT ได้ง่ายยิ่งขึ้น
สายใยแก้ว อีกหนึ่งตัวช่วยเสริมประสิทธิภาพของการทำงานในโรงงาน
Network Topology คืออะไร มาไขข้อข้องใจ ไม่ยากอย่างที่กลัว
Factory Automation คืออะไร ทำไมโรงงานอัตโนมัติถึงสำคัญ
Smart Factory คือ? มายกระดับโรงงานอุตสาหกรรมด้วย Industrial IoT
»

เทคโนโลยีเครือข่าย

  • เครือข่าย

    • Ethernet based network

      • CC-Link IE TSN
      • CC-Link IE Control Network
      • CC-Link IE Field Network
      • CC-Link IE Field Network Basic
    • Serial based network

      • CC-Link
      • CC-Link Safety
      • CC-Link L/T
    • Common Protocol

      • SLMP
  • ฟังก์ชัน

    • Safety Communication
    • Motion Control
  • โซลูชัน

    • เครือข่ายไร้สาย
    • Security
  • โปรไฟล์

    • CSP+/CSP+ for Machine
  • ตัวอย่างการใช้งาน
  • บทความที่น่าสนใจ
  • ข่าวสารและกิจกรรม
  • ดาวน์โหลด
  • ข้อมูลติดต่อ
เว็บไซต์สมาชิก
CC-Link Partner
Association (CLPA)
CC-Link CLPA

เข้าสู่ระบบหน้าต่างใหม่

  • Global Website (English)หน้าต่างใหม่
  • Worldwide Officesหน้าต่างใหม่
  • Site Map
  • เกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ( ภาษาอังกฤษหน้าต่างใหม่ )
เกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ( ภาษาอังกฤษหน้าต่างใหม่ )
© CC-Link Partner Association

ไปที่บนสุดของหน้า